รายละเอียดของการสู่ขวัญและคำสูตรขวัญ(สวดขวัญ)ประเภทต่างๆ 02

สู่ขวัญนา


ว่า ศรี ศรี วันนี้เป็นวันดี วันเศรษฐีเฒ่านกเอี้ยง เผิ่นได้เสี่ยงทำนายฝัน อยู่หลายวันเผิ่น ฝันหลาก เผิ่นจั่งฝากแม่ธรณี เผิ่นฝันดีบ่ตกยาก บ่ลำบากการทำนา พสุธาเก้าพันไฮ่ เผิ่นได้ใส่ข้าว สาลี ธรณีให้เลี้ยงโลก ให้มีโชคการทำนา แต่เดิมดากกเค้า คราวพระเจ้าพุทธโคดม พระบรมได้ ห้ามญาติ เผิ่นประกาศแบ่งเป็นตอน ตาออนซอนให้ถึกต้อง พวกพี่น้องนาหลุ่มและนาบ๋า พากันมา ยาดเอาน้ำ สองฝ่ายก้ำเมืองกบิล พอได้ยินเผยพระโอษฐ์ ให้ละโกรธและความหลง พระภุชงค์จึงได้ เทศน์ จั่งแบ่งเขตเป็นคันนา แบ่งกันมาขุดเป็นฮ่อง ให้เป็นป่องวารี ให้ได้มีทั้งสองฝ่าย น้ำไหลก่าย ไปเนืองนอง จั่งจับจองแบ่งกันใหม่ ป้านคันใหญ่เป็นไฮ่นา จั่งถือมาฮอดมื้อนี้ พระจั่งซี้ตาออนซอน ผ้าจีวรครองบ่า ตำราว่าคือตานา องค์พระศาสดาตรัสบอก ให้แบ่งออกเป็นตา เป็นไฮ่นาทั่วผืนผ้า ฮอดสังฆาฏิพาดบ่าภิกษุสงฆ์ พุทธองค์บัญญัติบอก ห้ามตัดอกพระวินัย เอาไปไสกะให้อยู่ ให้คือ หมู่พุทธา 

ท่านจั่งว่าเป็นไฮ่นา บาดนี้มาสิไถหว่าน สิได้ผ่านคองไถ มาเร็วไวกราบบาท บ่ได้ขาดฟ้า ใหม่ลงหนอง เสียงเนืองนองอึ่งอ่าง อยู่ใต้หล่างควายบักคูณ เบิ่งเผิ่นสูนฟืนฟาด เคาบ่ขาดสนดัง ปานสิพังเผิ่นห่าว ฟ้าวฝั่นข่าวเตรียมไถ ฝนตกไหลน้ำอั่ง ฝนไหลหลั่งตกลงมา เต็มไฮ่นาน้ำใหม่ กบเขียดไข่ปูปลา น้ำไฮ่นาล้นหลาก หลายเหลือมากเนืองนอง แสงกะบองออกจับเขียด ท่วมนา เอือดและนาทาม นาไผงามได้ใส่ฝุ่น ได้หลกฮุ่นฝักพีพวย ยามฝนฮวยเดือนหกออกใหม่ จับเอาใกล้ เฮือนไผเฮือนมัน ใบรวมโฮมกันเลี้ยงเจ้าปู่ เฒ่าจ้ำอยู่พิจารณา คางไก่มาแก๋ออก จั่งได้บอกลูก หลาน คางไก่ยานยาวโค้ง ฝนสิส่งปลายปี ฝนสิดีหลากหล้า น้ำอยู่ฟ้าเหลือหลาย แล้วระบายคางไก่ อีก เอามือฉีกออกมานำ จ่มมำๆ ชี้แก่แด่ เบิ่งหั่นแน่ดีคือกัน พอฮอดวันว่าตาแฮก เขากะแบกเอาไถ เอาลงไปเขยใหม่ เอาใจใส่ไถนาดี เอาแส่ตีควายบักด่อน ย่างออกก่อนว่าฮือ-ฮือ มือหนึ่งถือกำเชือก มือหนึ่งเถือกกำคันไถ ควายย่างไปว่าฮือฮ่อง-ฮือฮ่อง ดันหลังก่องก้อนขี้ไถ

ขออภัยนำแม่เจ้า สิเฮ็ดข้าวทำนา ขอขะมาพระแม่ ยามลูกแก่ไถไป ยามไถไวอย่าได้ พลาด ยามหลานคลาดอย่าโกรธา หลานทำนาหมายตักบาตร บ่ได้ขาดกินทาน ขอสมภารแก่กล้า พวกตูข้าทำนากิน ยามฝนรินบ่ได้อยู่ ทำเป็นหมู่นาดี มาหลายปีแต่พร้อมโลก นับว่าโชคได้นาหนอง ปานได้ทองสามเส้า ปานได้ข้าวพันเล่มเกวียน เฮ็ดหมุนเวียนบ่ได้ขาด ขอพระบาทแม่เจ้าธรณี อย่าได้มีใจตื่น อย่าแตกตื่นไปใส ขออภัยนำเจ้าแม่ ให้ได้แต่โภชนา ให้ได้มาทั้งข้าวเหนียวและข้าว จ้าว ข้าวช้างน้าว ทั้งข้าวขาว ข้างต้นยาวหอมอ่อน ให้ได้ป่อนทานัง ให้ได้ฝังข้าวบักหม่วย งามป่วย ล่วยข้าวงาช้างแลข้าวดอ เต็มในทอนั่นแม่นข้าวอีก่ำ ได้กินหน่ำนั่นแม่นข้าวสามเดือน ให้เต็มเฮือน อย่าเขินขาด สายน้ำไหลหลากเนืองนอง เดือนสิบสองให้ได้กินได้เกี่ยว ฮวงอย่าเหี่ยวสุกงอม ทั้งข้าว หอมเฮ็ดข้าวเม่า ให้เต็มเล้าสิได้กินได้ทาน เป็นข้าวสารเต็มไถ่ เลี้ยงคนใหญ่ทั้งโลกา มีนาเหนือ และนาใต้ นาท่งใหญ่มีหนอง ปลาเนืองนองดุกค่อ นามูลพ่อนาเซและนาห้วย ให้ได้ช่วยชูนำ พระ จอมธรรม์ฉันยามเช้า ถวายข้าวสังฆทาน เลี้ยงลูกหลานบ่ได้ขาด เม็ดข้าวอาจงามหลาย เหลือกิน ขายเงินอั่ง บ่ได้นั่งงอมือ เอาเกี่ยวถือก๋อเกี่ยว ข้าวบ่เหี่ยวงามดี ข้าวนาปีได้หลายหาบ

ผู้ข้าขาบแม่ธรณี อยู่ในน้ำให้มีปลา อยู่ในนาให้มีข้าว ขอแม่เจ้าจงอิดู ลูกหลานดู๋บนแม่ บาท เอาใส่ถาดเมี่ยงหมากและพาหวาน ของกินทานทั้งตาแฮก เอามาแจกผู้รักษา เจ้าจงมารับเอา สามื้อนี้วันนี้ ให้กอถี่ลำงาม อยู่นาทามและนาโคก ให้มีโชคเหลือตา ข้าวเต็มนาเหลืองอร่าม ว่ามา เยอขวัญเอย ให้เจ้ามาทั้งขวัญนาและขวัญข้าว ขวัญแม่เจ้าธรณี เจ้าจงมารวมอยู่ มาเป็นหมู่ให้ลูก ให้หลาน ให้ได้กินได้ทานอย่าให้ขาด อย่าได้เขินเป็นหาด อย่าได้ขาดเป็นวัง อย่าได้พังเพห่าง อย่า ได้ว่างเว้นหนี ให้ข้าวฮวงยาวพอศอก ให้ต้นข้าวสูงออกพอวา ให้เต็มนาท่งใหญ่ สัตว์น้อยใหญ่อย่า ได้มาราวี นกตัวดีอย่าบินผ่าน นกจาบปากก่านอย่ามาวน ขอให้ได้เลี้ยงลูกหลาน ตราบต่อเท่าอายุ เข้าห้าพันวัสสาก็ข้าเทอญฯ ภะ สะ ภะ โภชะนัง มะหาลาภัง สุขัง โหตุ สาธุ 


คาถาเสกน้ำรดนา 

หลังจากสูตรขวัญนาแล้ว ให้ทำน้ำมนต์รดนา คาถาว่า ดังนี้ 

1. ว่า นะโม ตัสสะ ฯลฯ สัมมา สัมพุทธัสสะ 3 จบ 
2. ว่า ไตรสรณะคม พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิฯลฯ ตะติยัมปิฯลฯ ว่าเหมือนเดิม 
3. นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมัง คะลัง
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมัง คะลัง
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมัง คะลัง 
สักกัตตะวา พุทธะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง หิตัง เทวะมนุสสานัง พุทธะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ทุกขา วูปะสะเมนตุ เต
4. สักกัตตะวา ธัมมะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง หิตัง เทวะมนุสสานัง ธัมมะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ทุกขา วูปะสะเมนตุ เต
สักกัตตะวา สังฆะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง หิตัง เทวะมนุสสานัง สังฆะเตเชนะ โสตถินา นัสสันตุปัททะวา สัพเพ ทุกขา วูปะสะเมนตุ เต 

กก กอ ดอ ดก ท่านว่า ข้าวบ่มีโรค บ่เป็นบั่ว หมากดกดั้วงามดี


สู่ขวัญงัวควาย



ศรี ศรี มื้อนี้เป็นวันดี วันเศรษฐี วันขัติยะราช มีอำนาจพลังเหลือหลาย มีความหมาย เหลือหลาก บ่ทุกข์ยากอันใด สมดังใจมวลหมู่ จั่งได้สู่เอาขวัญ จั่งได้ชวนทั้งทวยเทพเมืองแมน พระยาแถนผู้ปั้นหล่อ ผู้เค้าก่อไถนา จั่งเอามายังมหิงสาตัวอาจ ตัวสามารถมีพลัง เอามายังเคหา มาอยู่นาบักเขาแก้ว ให้ชื่อแล้วว่าบักคูณ เอามาหนุนเกื้อก่อ มาเป็นหน่อทองคำ ไถนาดำแลนา หว่าน ตัวเคยผ่านไถนา เป็นพระยาฤทธิ์เดช อยู่ในเขตปฐพี เป็นควายดีมีอำนาจ งามองอาจกว่า มหิงสา จั่งเอามาผูกเชือก จั่งได้เลือกเอามา อยู่ชายคาหลังใหญ่ โตมันไล่พาลี โตมันตีสังครีบ โตมันถีบทรพี มันบ่หนีบักเขาแก้ว เอามาแล้วทรัพย์มาโฮม เสียงทมๆ เขาโล้งโค้ง ปล่อยลงท่งอยู่ กลางนา งามแต่หางฮอดส้นหน่อง เกินงานค่องเจ้ามหิงสา ยามไถนาบ่มีขาด ยามเฮาคลาดมีกำลัง บ่ถอยหลังตกต่ำ ฮอดยามค่ำขี่เข้าไปเฮือน ไถเป็นเดือนกะบ่จ่อย เก่งบ่ค่อยกาสร 

สองเขางอนงามยิ่ง แขวนกระดิ่งอยู่ในคอ ฟังเสียงขอดังสนั่น เกินกล้ากลั่นอ้ายทุยทอง สีบ่หมองเหลืองหล่า ไล่ลงท่าไปนอนซำ เจ้าของนำดึงเชือก นอนดมเกลือกเซามีแฮง บึกบึนแข็ง องอาจ พอปานนาคราชดึงเขาพระสุเมรุ ผู้ใด๋เห็นกะอยากได้ โตเจ้าใหญ่เพียงตา ยาวเป็นวาหลัง บ่แอ่น ไถนาแก่นแห่งข้าวงาม ไถนาทามและนาโคก เจ้าถึกโสกกาสร คนออนซอนอย่างอาดๆ เจ้าฉลาดไถนาดี บ่เคยตีไปตามห่อง ไปตามป่องบ่สับสน พอปานคนเจ้าองอาจ เอาใส่คราดบ่มี ถอย ย่างตามฮอยฮู้ฮ่อม ไปหล่อมๆ ทำนา มีปูปลามาอยู่ดีกว่าหมู่นาทาม ข้าวกะงามแตกหน่อ นามูลพ่อต้นข้าวสีเขียว เฮ็ดข้าวเหนียวและข้าวจ้าว พันลาวอ้าวฮวงดียามเฮาตีฟาดตุ้ม ข้าวขึ้น กุ้มเต็มลาน เฮ็ดนาหมานคูณค้ำ พอเฒ่าจ้ำว่าบ่ขาย ราคาหลายเป็นหมื่น เจ้าดีหลื่นมาอยู่นำ ปานทองคำฮักห่อ 


ลูกของพ่อกาสร ตาออนซอนเจ้าไถคราด เจ้าฉลาดพอปานคน เจ้าอดทนเหลือหลาก หญ้าเต็มปากนำคันนา ไปเอามาให้เจ้าอยู่ เอามาสู่เต็มกะทอ กินให้พออย่าอึดหยาก มีหลายหลาก ในนามหิงสา ลากแก่ข้าวกะแผ่เป็นฮวง ท่วมหลังกวางและช้างม้า อยู่นาท่าข้าวกะงาม อยู่นาทาม ข้าวแตกหน่อ ปานคนก่อแบ่งเอา เขียวปานเทาบ่อเหลืองหล่า ได้พันต่าแสนกระบุง กินเต็มพุงบ่ อึดอยาก บ่ทุกข์ยากอันใด๋ ปลดจากไถเจ้าพักผ่อน หยุดก่อนหมดเวลา เจ้าไถนาเหนือและนาใต้ ทั้งนาใกล้และนาไกล อย่าไปใสให้เจ้าอยู่ ไปนำหมู่หาเล็ม 

ว่ามาเยอขวัญเอย ถึงยามค่ำให้เจ้าเข้ามาเฮือน เดือนดำตกมืดซ้าวล้าว ให้เจ้าฟ้าวมา เฮือนหา เข้าชายคาอยู่ในคอก ฟังข่อยบอกจื่อจำเสียง ฟังสำเนียงให้เจ้าแหล่น ให้เจ้าแก่นนอน เฮือน อย่าได้เหมือนกะฮอก ผู้ใด๋บอกให้จำเอา อย่ามัวเมานำโตแม่ อย่าไปแว่สวนมอน อย่าไปซอน สวนเผิ่น เจ้าอย่าเปิ่นหลงทาง ว่ามาเยอขวัญเอย ให้มาสามื้อนี้วันนี้ มาอยู่ที่ตะหล่างเฮือนสูง เขาบ่ จูงเจ้าไปฆ่า เขาบ่ด่าเจ้าโตดี เขาบ่ตีเอาเชือกถาบ เขาบ่หาบมังสัง เขาบ่ซังกดขี่ ให้เจ้ามาอยู่ที่เคย นอน บ่มีหมอนให้เอาโล้งโค้ง คือกะด้งมาหมูน ว่ามาเยอขวัญเอย ให้เจ้าคูณเจ้าค้ำ ยามมืดค่ำให้ โงมา ยามไปนาให้เจ้าต่าว อย่ากินข่าวเชือกไถ อย่าจัญไรชนฮั้ว อย่าไปกั้วสวนแตง เจ้าของฮักฮ่อ ลูกของพ่อคูณเฮือน 


ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปวังน้ำ นอนตมบ่อนมันหล่ม ขวัญเจ้าไปเที่ยวพ้อกาสร โตแม่ เจ้าอย่าแวส่องเล่นเห็นแล้วให้ต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย มาตั้งขวัญเขาพร้อมขวัญหูทั้งคู่ จตุบาทอย่าได้ช้าให้มาพร้อมพร่ำกัน ว่ามาเยอขวัญเอย นังคัลพั่วฟอยหางกวัดแกว่ง ให้เจ้ามาไล่ ฮิ้นยุงพร้อมเหลือบนำ ขวัญตาก้ำทั้งสองมองอยู่ ขวัญปากคิ้วหัวพ้อมสู่แนว มาฮอดแล้วหลักเก่า เสาเฮือน นอนสีคีงฮ่มเย็นหายฮ้อน อย่าไปเชยซมซ้อนหนีไปนอนเฮือนเผิ่น ให้เจ้ามาตะหล่าง กว้างๆ เฮาพี้อย่าสิหนี เอหิ มะหิส สะกะฆะเร ปะติฏฐาหิ สาธุ 

คำผูกเขาควาย 

ศรี สรี ฝ้ายเส้นนี้แม่นฝ้ายดี ฝ้ายอันมีฤทธี ส่งมาแต่เมืองฟ้า พระนารายณ์เป็นเจ้าส่งลง มา ให้ผูกเขามหิงสาตัวประเสริฐ เพื่อให้เกิดค้ำคูณ ขวัญผิดที่ก็ให้หาย ขวัญจัญไรก็ให้จืด มีแต่ที่ ประเสริฐทั่วตัวควาย โรคปากเปื่อยอย่าให้มี โรคบ่ดีอย่าให้พ้อ ให้เจ้าเป็นตั้งต่อคูณเฮือน ทุกปี เดือนอย่าให้เจ้าของอึดอยาก ให้ได้ดังคำมักคำปรารถนา ว่า อุ อะ มุ มะ มุนมา มะหามูลมัง สวาหุมฯ


สู่ขวัญเล้า



ศรี ศรี ปฐพีแผ่นฮาบ ผู้ข้าขาบสามที ได้เล้าข้าวดีหลังใหญ่ เอาข้าวใส่อาศัย มาแต่ใส เล้าหลังนี้ ตั้งแต่กี้มาบ่เห็น แม่นไผเข็นมาแหว่ แม่นไผแก่มาหา จั่งได้มาคูณค่า ข้าวพันตาใส่บ่เต็ม ตอกเสาเข็ญขวัญแฮก เศรษฐีแทกตงขาง จั่งเอาวางมาก่อ เล้าข้าวพ่อพระยาอินทร์ ไผได้กินข้าวใน เล้า ฮอดพระเจ้าทรงธรรม เผิ่นมานำสอดส่อง บ่มีป่องแปวหนู บ่มีฮูฮอยปวก ปลายบ่กวกเป็นโกน ฮูลิงโทนและนกเค้า เป็นไม้เก่าอินทร์ทรง จั่งเอาลงมาตัดใส่ ไม้แต้ใหญ่ลำแข็ง ทั้งกกแดงและกกดู่ ไปเอาอยู่หิมาลัย บ่มีไผเอาได้ เผิ่นให้ข่อยผู้เดียว อยู่ภูเขียวบ่ได้เผี่ยง อยู่ภูเวียงบ่ได้ท่อเอาไป เสาอยู่ ในเผิ่นให้ปลอก เส้นอยู่นอกเผิ่นให้ฟัน มารวมกันเป็นเสาเล้า ใส่ข้าวจ้าวและข้าวเหนียว 

ไผเหลียวมาว่าแม่นปราสาท งามอาดหลาดปานโฮงหลวง บ่เข็ดขวางคูณค้ำ ใส่ข้าวก่ำ ได้พอซาว ใส่ข้าวขาวได้แสนหาบ ยกมือกราบสามหน เทพอยู่บนจงมาส่อง เฮ็ดนาฮ่องได้ร้อย เกวียน แก่มาเฮือนคนบอกเว้า ขึ้นใส่เล้าหลังสูง ป้ากับลุงเผิ่นมาส่อย เอาฆ้อนต่อยตีขาง ตีแขนนาง และกะทอด เอามาฮอดตงขาง เอามาวางแป้นพาด เอามากาดวางตงใส่ ข้าวเปลือกใส่ตั้งแต่วาน เอาจากลานเกวียนแก่ บ่ได้แหว่ไปใส ไปทางใด๋อย่าได้ห่าง อย่าได้ว่างเติมมา ข้าวอยู่นามาสู่ แม่ โภสพอยู่เชยชม ไม้แป้นลมเอามาแต่ฟ้า พระหน่อหล้าเอามาแฝง ไม้ละแนงข่าวขื่อ ไม้อันชื่อจันทัน มารวมกันหน้าต่าง อยู่บ่ห่างปักกะตู อัดปูลูทอข้าวปลูก

แบ่งให้ลูกสาวใหญ่เก้าลำเกวียน แก่เมือเฮือนแต่เช้า บ่บกเล้าเต็มปอลอ อยู่ในทอแนว ข้าวป้อง อยู่ในห้องข้าวปลาเข็ง เสียงคื่นเค็งเกวียนแก่ พ่อค้าแหว่มาเซา หอมเป็นเลาข้าวแม่ฮ้าง เต็มใต้ล่างเหลือหลาย แม่นสิขายกะบ่เบิ๊ดบ่บกบ่เสียง ยังพอเลี้ยงอยู่เต็มตัน ตักเบิ๊ดวันกะบ่เบิ๊ด บ่เปล่า ยังคือเก่าเล้าหลังคูณ ยังเต็มพูนสวดโจ้โก้ สูงพ้นโผล่ข้าวเต็มฉาง เหลียวเห็นขางจนแอ่น นี้จั่งแม่นเล้าข้าวดี เล้าข้าวมีอำนาจ แม่นบ่ขาดอึดหาย มีอยู่หลายคือเก่า จั่งได้เล่าเอาขวัญ จั่งได้ ชวนเอานารถ ไม้แป้นกาดฮองตง มาแต่โฮงอุปราช เอามาพาดแทนทองคำ เอามานำแต่พระเจ้า จั่งได้เว้าว่า 

มาเยอขวัญเอย ขวัญไม้ใหญ่ลำสูง ขวัญไม้ยูงลำสื่อ มาเป็นขื่อตงขาง ขวัญไม้ยางและ ไม้แต้ เอาเกวียนแก่มาแต่ภูเงินภูทอง เอามาฮองใส่ข้าว มาเฮ็ดเล้าหลังงาม ไผมาถามว่าปราสาท ยาวอาดหลาดมุงดี สังกะสีบ่ฮั่ว ลูกหลานคั่วไปหา จั่งได้มาปลูกไว้ เป็นหลังใหญ่ถาวร ปานเฮือน นอนพระยาเวส อยู่ในเขตสีพี เป็นหลังดีสีส่อง ข้าวนาฮ่องและนาทาม เขาได้หามทั้งได้หาบ ผู้ข้า กราบสามหน อย่าสิจนทางข้าว ขอเผิ่งเจ้าเล้าหลังดี เป็นเศรษฐีมีมั่ง ให้ได้นั่งนอนกิน ว่ามาเยอ ขวัญเอย ขวัญไม่ดู่อย่าได้หนี ไม้แสนดีทั้งไม้แดงและไม้แต่ อย่าได้แหว่หนีไปไกล อย่าไปใสให้มา อยู่ มาเป็นหมู่ขวัญไม้ยูง เสาหลังสูงไม้พันชาติ งามองอาจสมศรี

ว่ามาเยอขวัญเอย เจ้าอย่าไปอยู่ไพรสณฑ์ เจ้าอย่าไปอยู่ปนในเถื่อน กับทั้งไม้ตะเคียน แป้นแอ้ม หัวแย้มๆ นางตะเคียน มาเป็นเฮือนอย่าได้เศร้า มาเป็นเล้าคนดี เป็นศักดิ์ศรีเล้าใหญ่ เฮียกข้าวใส่เต็มฉาง คนกายทางเหลียวเบิ่งเล้า เหลียวเบิ่งเจ้าผู้รักษา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้า อย่าได้ด่วนไปอยู่ไกล ไปอยู่ไพรบ่อนเก่า ไปอยู่เหล่าเขาสิฟัน ว่ามาเยอขวัญเอย มาอยู่บ้านจักได้ เป็นเศรษฐี อยู่เป็นปีจักเก้าร้อย มีลูกหลานน้อยพอกัน เขาตำข้าวสักกะลันคกมองข้างเจ้า ผู้เป็น เล้าอย่าสะเทือน ตำเป็นเดือนตำเป็นปีทั้งซ้อมต่าว อย่าโอ้อ่าวซังสาว ข้าวขาวๆ เอาจากเล้า ขอ บอกเจ้าเฮ็ดกินทาน พระภูบาลหน่อฟ้า ใต้แหล่งหล้าได้อาศัย ทั้งฟืนไฟอยู่ตะหล่าง อยู่กะส่างอย่า หัวซา พวกชาวนาอาศัยเจ้า อาศัยเล้าข้าวจั่งยัง ขอจงฟังผู้ข้าบอก ยามสงฆ์ออกภิกขาจาร เตรียม จังหันและตักบาตร ตักบ่ขาดหยาดน้ำหา เอาเจ้ามาจากกลางป่า เผิ่นจั่งว่าสู่ขวัญเอา

ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญหม่อมเจ้า ผู้เป็นเล้ารักษา แม่โภสพมานองอั่ง ให้สมดั่งมะโน หมาย ไชยะตุ ภะวัง ไชยะมัง คะลัง อุ อะ มุ มะ มูล มา มะหา มูลมัง สะวาหุมฯ สาธุฯ 


ความทำน้ำมนต์รดเล้าเข้า 

มา ขะโย มา วะโย มัยหัง มา จะ โกจิ อุปัททะโว ธัญญะ ธะมานิ ปะวัสสันตุ ธะนัญชะ ยัสสะ ยะถาฆะเร สุวัณณานิ หิรัญญา จะ สัพพะโภคา จะ ระตะนา ปะวัส สันตุ เม เอวัง ฆะเร สุมะนะชะฏิลัสสะ จะ อะนาถะปิณฑิ กัสสะ โชติกะสุงมังคะลัสสะ จะ มันธาตุเวสสันตะรัสสะ จะปะ วัสสันติ ยะถา ฆะเร เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ สัพพะ สิทธิ ภะวันตุ เมฯ

บทนี้ทำน้ำมนต์รดเล้าข้าวดีนักแล ฯ


สู่ขวัญลาน



ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อแม่ธรณีแจ่มเจ้า แม่ได้เว้าต่อฝูงคน หมดหน้าฝนลมเป่า เบิด เดือนเก้าวนมา ออกพรรษาลมหวี่ๆ ลมของปี่ข้าวดอและข้าวใหม่ เกี่ยวมาใส่ในลาน บ่ทันเป็นข้าว- สารบ่ทันฟาด ฮวงอาดหลาดมัดเป็นกำ ชาวนาทำทุกหมู่ เอามาสู่ปวงชน ของคนกินแม่นข้าว แม่ แจ่มเจ้าจั่งให้อนุญาโต องค์พุทโธก่อนสิฮู้ ก่อนสิตรัสรู้เห็นธรรม กะกินข้าวเป็นคำมะธุปายาส จั่ง ฉลาดเป็นมา สุชาดาถวายบาท เอาใส่ถาดทองคำ จั่งเห็นธรรมตรัสส่อง จั่งเห็นป่องอริยสัจสี่ จั่งได้ ออกจากที่สอนศาสนา มีปัญญาล้ำเลิศ จั่งได้เกิดเป็นคำสอน พระบวรองค์ประเสริฐ แม่ธรณีจั่งได้ เกิดส่อยนำมา พสุธาพื้นแผ่น ใสปานแว่นพสุธา พวกชาวนาจั่งได้ขุด พวกชาวนาจั่งได้ก่น แม่บ่บ่น จักคำ ชาวนาทำปัดกวาด สิได้นวดได้ตี สิได้วีข้าวสะนุ ดังก้องกว่าเสียงพุเสียงปืน ตีกลางคืนฟาด ข้าว ฟาดข้าวจ้าวและข้าวเหนียว ย่างเที่ยวไปและเที่ยวมา เอาตีนขาเหยียบย้ำตั้งแต่เช้าฮอดค่ำ วนเวียน 

อยู่เป็นเดือนแสนยาก แสนลำบากแม่ธรณี ขออย่ามีคำโกรธ ขอยกโทษนำชาวนา ขอ ขมานำเจ้าแม่ จงเห็นแก่กินทาน เป็นข้าวสารตักบาตร ชาวนาหยาดวารี อุทิศกุศลให้แม่ธรณี ผู้อยู่ต่ำ ผู้หลิงหล่ำฝูงคน ฮู้อยู่บนพื้นแผ่น ขอจอมแก่นจงปราณี ขอแม่เจ้าธรณีอย่าได้ปาก ลูกจัก เอาจอบถากเสียลาน เฮ็ดบ่นานข้าวขึ้นเล้า ขอแม่เจ้าจ่งอภัย บ่ไปใสให้ได้เบิ่ง ให้ได้เพิ่งบารมี ขอ แม่ธรณีจ่งปกป้อง ในแห่งห้องปริมณฑล พวกฝูงคนจั่งบอก พวกอยู่นอกชาวนา อย่าถือสาลูกช้าง บ่ได้ม้างเพพัง บ่เอาหยังมาข่ม อย่าได้จ่มซังหลาน บ่อยู่นานดอกแม่ เสร็จแล้วแก่หนีลาน ไปเฮือน ซานสู่เล้า ข้าจั่งขอปากเว้าสมมา หมากสองคำยาสองกอก ผู้ข้าบอกพาหวาน เต็มพาพานบ๋าแม่ จงเห็นแก่ชาวนา อย่าถือสาเสียงสั่น เสียงสนั่นสะเทือนองค์ ผู้ข้าปลงมื้อนี้ออกจากที่จักคราว 

พวกหนุ่มสาวมาชมชื่น แม่อย่าตื่นตกใจ ศรีนงค์วัยไวอย่ากริ้วกราด อย่าอาฆาตหลาน เหลน อย่าจองเวรพวกผู้ข้า ยามวางต่าครุแคง เขาวางแฮงตึ้งตั้ง บางคนนั่งชันขา บางคนมาเต้นไต่ บางคนไล่จับกัน เสียงโฮงันกินเหล้า พระแม่เจ้าจงอภัย จ่งหยับไปอยู่ขอก ผู้ข้าบอกจักคราว แม่ผม ยาวเก้าโยชน์ งามเหลือโพดมวยผม พระบรมได้ไทรเผิ่ง ให้คึดเผิ่งพระโคดม พระบรมตรัสรู้ พระนั่ง อยู่โพธิ์ศรี พระขันติตั้งหมั้น พระบ่ย้านกลัวมาร เขาอาจหาญมาก่อ เขามาต่อสงคราม ยกพลหลาม แหนแห่ อันได้แก่แหลนหลาว กองทัพยาวพอโยชน์ กุมภัณฑ์โกรธโกรธา เขายกมาว่าสิฆ่า มารเขา ว่าของเขา พระโคเอาแท่นแก้ว เขาบ่อแล้วยิงธนู มาฟันตรูพอหมื่น เสียงคีคื่นคับเวหน มาประจญ มีทั้งช้าง เขามาม้างชิงบัลลังก์ เขาบ่อฟังคำบอกเล่า เป็นของเก่าขานไขมา เสียงมารจาหยาบช้า เสียงมารดาพระจอมธรรม เอามานำหอกดาบ เอามาปราบขับหนี ยกมาตียิ่งผ่า พระบ่ว่าบารมี เอา ขันตีนั่งแท่น พระบ่แล้นไปใส สมดั่งใจเป็นวัตร

สามสิบทัศบารมี จั่งได้ฮอดแม่ธรณีผู้อยู่ใต้ ขึ้นมาไหว้พระโคดม ยกมวยผมขึ้นฟ้า จั่งได้ ว่าอธิษฐาน น้ำไหลท่วมพระยามารโตบังอาจ เป็นน้ำพาดไหลนองมา มีมัจฉาทั้งหมู่แข้ ลากคาบแก่ กุมภัณฑ์ หนีบ่ทันช้างม้า เผิ่นจั่งว่าแม่ธรณี แสนพันปีตุ้มไพร่ฟ้า พวกผู้ข้าบ๋าบน พวกฝูงคนใต้หลุ่ม คนหลายกลุ่มได้อาศัย แม่ศีไวแขนอ่อน จงผันผ่อนปราณี ขอแม่เจ้าจ่งมีเผยแผ่ จ่งเห็นแก่หลาน เหลน ยามกลางเว็นและยามเช้า ขอแม่เจ้าจงอย่าฝืน ยามกลางคืนเขาฟาด เขาบังอาจเหยียบไปมา ขอวันทากราบบาท อนุญาตคูณลาน พวกลูกหลานสิกองข้าว มีข้าวจ้าวและข้าวเหนียว มีคนเทียว มาแหว่ ขอเจ้าแม่จ่งอวยพร ตามคำสอนพระพุทธบาท อย่าให้เขินเป็นหาด อย่าได้ขาดเป็นวัง 

ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญลานพวกลุกหลานขออนุญาต ข้าวไหลมาอย่าขาดเป็นกะบุง ให้ กองสูงเพียงปลายไผ่ ให้ข้าวกุ้มใหญ่ท่อภูผา ให้นำมาอั่งแน่นให้เต็มแผ่นลานคำ ให้จอมธรรมได้นั่ง เม็ดข้าวอั่งเหลือลาน ได้กินทานตักบาตร อย่าได้ขาดทานัง ให้เข้ายังคือเก่า ผู้ข้าเหล่าสามที แม่ ธรณีกะมาช่วย ตะถาคะโต สิทธิเตโช ชะโยนิจจัง สัพพะกัมมัง ประสิทธิ เมโอมธัญญะ สวาหุมฯ

เสกน้ำประพรมข้าวหลังสู่ขวัญ 

สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง 
สุหุฏฐิตัง สุขะโณฯ สุมุหุตโต จะ 
สุยิฏฐัง พรหมจาริสุ ปะทักขิณัง 
ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธีเต 
ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตตะวานะ 
ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ มา ขะโย 
มา วะโย มัยหัง มา จะ โกจิ 
อุปัททะโว ธัญญะธะนานิ เม ปะวัสสันตุ สะวาหุมฯ


สู่ขวัญเกวียน-รถ



ศรี ศรี ขึ้นดิถีปีใหม่ ข้าผู้ใหญ่ถ่ายราศรี พระภูมีสุริเยศ ถึงฤดูเขตเดือนสาม นางโสม งามเกวียนแก้ว อาบน้ำแล้วจึงลาพร ลมพัดวอนแห้งแล้ว เอาพาแก้วเบิกคูณขวัญ บรบวรพลูพัน และหมากจีบ ใบกล้วยตีบเฮ็ดบายศรี มีทั้งหวีและต่างแก้ว งามลวดแล้วเอามาแยง ของหอมแพง และแป้งป่น งามเลิศล้นปลอกแขน มีทั้งแหวนและสายสร้อย ฝูงตูข่อยจั่งมาหา มีมาลาแลดอกไม้ หามาไว้ใส่บูชา มีผลาและไก่ต้ม มีของส้มและเผือกมัน มากวนกันถวายแก่ พ่อและแม่มาโฮม เอาแขนโจมพาโตก ขอเผิ่งโชคคูณขวัญ ว่า ศรี ศรี สิทธิพระพร เกษรหอมห่วงเฮ้า ข่อยจักเชิญ จอมเจ้าเกวียนคำ ทั้งกงกำและดุมแอก ทั้งทวยแปรกและคานหลัง ทั้งประทุนและหนังผูก เฮ็ดให้ ถูกอยู่หัวเกวียน 

ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปขนไม้ในดงเดินยาก ขวัญเจ้าไปขนหญ้าแฝกมุงหนา ขวัญเจ้าไปขนหญ้าคามุงถี่ ก็ให้มามื้อนี้วันนี้ ขวัญเจ้าไปรับจ้างขนข้าวในฉาง ขวัญเจ้าไปรับจ้าง ขนทรายและดินจี่ ขวัญเจ้าไปอยู่ที่ทางไกลกะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย ให้คืนมาสถาน เฮาอยู่ อย่าไปอยู่แกมหมู่ไม้แนวเหง้าป่งใบ ขวัญทวกให้มาอยู่ทวกทั้งสอง ขวัญคานให้มาอยู่คาน ล่างง่าง อย่าได้ห่างไปไกล อย่าไปใสขวัญแก้ว ว่ามาเยอขวัญเอย มื้อนี้แม่นมือดี ข้าจักทำบายศรี เกวียนแก้ว ทำขวัญแล้วให้เจ้าค่ำคูณเฮือน ถึงฤดูเดือนขวบเข้า ให้เจ้าฮักบ่าไว้ยังงัวควาย ให้สบาย ดีบ่ยาก ลำบากให้เจ้าค่อยเพียรอด ทางมันคดต้นไม้ใหญ่ขวางทาง ฮากไม้วางขวางหน้าอย่าได้ล้ม หักตะแคง 

ว่ามาเยอขวัญเอย ให้มาสามื้อนี้วันนี้ ให้เจ้ามีแฮงดั่งราชรถ ให้งามงดคงทน ใส่คนหนัก กะให้ได้ บรรทุกไม้พันลำ ให้ไปนำทางแล่น ไปดินแก่น ดินทราย บ่พองายให้ฮอดบ้าน บ่ได้ย้าน กำลังมี เป็นเกวียนดีแสนประเสริฐ เจ้ามาเกิดเป็นมุงคุล เกวียนมีบุญฮ้อยเล่ม ว่ามาเยอขวัญเอย อย่าได้ค่นหักพัง ใส่อีหยังกะให้ได้ เอาไม้ลำงาม เก่งกว่าเกวียนท้าวคันทะนามแก่ไม้ แก่ไม้ไผ่และ ไม้บง สมประสงค์จิตจ่อ เกวียนมูลพ่ออยู่หลายปี มีรังสีเฮืองฮุ่ง ฝูงตูข้าให้อยู่เย็น ความบ่ดีอย่าได้ เห็น ความเคราะห์เข็ญอย่าได้พ้อ ให้เทียมหน่อรถพระอินทร์ ไชยะตุ ภะวัง ไชยะมังคะละ มะหา มุงคุล สาธุฯ

(ถ้าสูตรให้รถให้เปลี่ยนคำว่าเกวียนเป็นรถทั้งหมด) 

คำผูกทวกเกวียน 

นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา

ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะวาจาว่า พระรัตนตรัยเจ้าเป็นที่พึ่งของเฮา เฮาบ่เอาอันใดเป็นที่พึ่ง ด้วยสัจจะวาจานี้ขอเกวียน (รถ) จงไปมาสวัสดีมีสุขีไปมาฮอด อยู่ตลอดบ่มีภัย ความจัญไรอย่า ได้พ้อ ให้พ้อแต่ลาภาหนุนกันมาพร้อมพรั่ง อั่งๆ ขึ้นคือน้ำ น้ำแม่นะที มะอะอุ อุ อะ มะ นะ ชา ลิ ติ สาธุ


ขอขอบคุณบทความ  www.baanmaha.com

ความคิดเห็น